วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

55-3-30 บันทึกย่อพ่อเทศน์ เรียนอิสระฯ



ตอน.. "พุทธทำประโยชน์กับมวลมหาชน นี้แหละประชาธิปไตย" 
บันทึกย่อพ่อเทศน์ เรียนอิสระฯ FMTV บ้านราชฯ 
ศ. ๓๐ มี.ค. ๒๕๕๕ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะโรง เริ่มเวลา 18:06 น.
โดย ..  ใจแปลง สู่แดนธรรม
ที่มา.. :  http://www.facebook.com/groups/188545584512043/permalink/376056165760983/



พ่อท่านกับคุณเทิดภูมิไท ใจดี ร่วมกันจัดรายการ ซึ่งนั่งอยู่กันคนละสถานี วันนี้เปิดรายการโดยคุณเทิดภูมิ ถามความเห็นเรื่อง “ปรองดอง” พ่อท่านตอบโดยอภิปรายว่า คนผิดเขาอยากจะให้พิพากษาเขาไหม คนผิดพยายามหาทางปรองดอง เพื่อให้สงบ แต่เขาก็ไม่ไว้ใจคุณ เพราะคุณก็ยังไม่กลับตัวกลับใจ คุณยังไม่หยุด ไม่เลิก ทางที่ดีคุณต้องยอมเลิก เพื่อให้อีกฝ่ายที่มีความถูกนั้น ตัดสินความผิดของคุณไปให้เด็ดขาด 

พลเมืองไทยจะยอมปล่อยให้คุณปู้ยี่ปู้ยำประเทศไหม พ่อท่านก็จะดูประชาชนด้วยว่า จะดูดายปล่อยประเทศไหม ถ้ายอมปล่อยดูดาย วางเฉย อุเบกขากันอย่างนั้น ก็ไม่น่าปล่อยให้เขามาปู้ยี่ปู้ยำประเทศขนาดนั้น ขณะนี้เมืองไทยกำลังจะถอดแบบเหมือนกับอาร์เยนติน่า กำลังจะล่มสลาย 

จะว่าไปแล้ว เมืองไทยไม่ต้องไปพึ่งใครเลยก็ได้ จะปิดประเทศซะก็ยังได้เลย เพราะทรัพย์บนดินก็มีทองคำเป็นพืชภัณฑ์ธัญญาหาร ทรัพย์ใต้ดินก็มีทองดำเป็นน้ำมันดิบ แก๊สก๊าซก็มีอย่างอุดมสมบูรณ์มากมาย แต่คนไทยฝ่ายบริหารกลับไปคบกับต่างประเทศ ทำให้ต้องซื้อน้ำมันแพงมากๆ 

เรื่องน้ำมันคุณเทิดว่าที่ลานกระบือ ทำไมปล่อยให้ฝรั่งสัมปทานไป ฯลฯ ชาวบ้านหลงประชานิยมไปกันใหญ่แล้ว รอคอยแต่รัฐบาลจะหยิบยื่นมาให้ พ่อท่านว่านั่นเป็นเพราะอะไร ตอบก็เพราะคน แล้วคนเป็นอะไร ก็คนเป็นคนเห็นแก่ตัว โลภมากและทุจริตได้อย่างเก่ง จนกลายเป็นสังคมทุนนิยม มีนายทุนใหญ่ มีนายทุนเล็ก เอาความฉลาดไปใช้ดูดทรัพย์ผู้อื่นมาในทางเลว มีแต่ความเชื่อว่าจะทุจริตยังไง จะบาปจะผิดยังไงก็ไม่กลัวบาป เพราะไม่เชื่อในสัจธรรม ที่มีผลบาปจริง

คนไม่เชื่อบาปเพราะ ๑.ตัวเองโง่ ๒.ผู้สอนบาปบุญนั้นถ่ายทอดไม่เป็น จนคนไม่เชื่อบาปบุญ ทำให้พลังศีลธรรมมาบำเพ็ญกันไม่ได้ ผู้ที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลศาสนา แสดงว่าไม่มีน้ำยาอะไรเลย ชาวอโศกเป็นกลุ่มชาวพุทธที่มีความเห็นต่าง และประพฤติต่าง จนได้ผลคือ จากรวยมาจน จากหรูหรามามักน้อย สันโดษ ขยัน สละ ไม่สะสม 

หลักเกณฑ์ที่สามารถกระทำได้ ซึ่งเป็นเรื่องลึกๆ แต่ไม่ลับ (ถ้าลับก็เพราะยังไม่รู้แต่ไม่ทำ) ก็คือ ๑.อย่าเป็นหนี้ อย่าเข้าไปในวงจรต่างๆ ของทุนนิยม เช่น เงินผ่อน ๒. ต้องพึ่งตนเองให้รอด สร้างสรรค์ให้พออยู่พอกิน ๓. สร้างทำให้มาก แล้วแจกให้ได้ ขายให้ถูก ขายให้ถูกนี้แหละคือการแก้เคล็ดทุนนิยม (ผมว่าดัดสันดานทุนนิยมเลยหละ) 

คนที่จะทำตามได้ทั้งสามข้อนั้น ใจจะต้องถึง คือ ใจต้องลดโลภ ไม่มีเห็นแก่ตัว ไม่มีจิตริษยา ไม่มีจิตแข่งขันข่มเบ่งกับใคร คือทำได้ตามทฤษฎีพระพุทธเจ้า มักน้อย สันโดษ ซึ่งก็ยังมีอีกสองนัยคือ มักน้อยแบบโต่งไปในจิต แต่จิตไม่มีปัญญา ไม่มีจิตสัจจานุโลมิกญาณ ที่จะไปช่วยเหลือสังคมเขา จึงไม่รู้เท่าทันสังคม จึงไม่กล้าตำหนิเขาให้เขาสามารถดื่มคำตำหนิได้ ส่วนมักน้อยแบบพุทธนั้นจะมีปัญญารู้ทันโลก มีสัจจานุโลมิกญาณ ที่ไปช่วยเหลือสังคมเขา กล้าที่จะตำหนิเขา ให้เขาเกรงกลัวบาป จนเปลี่ยนแปลง ไม่ทำบาป มีกายสักขีที่จะทำประโยชน์ให้เขาได้อย่าง พหุชนหิตายะ พหุชนสุขายะ ฯลฯ

พ่อท่านแปลเนื้อหาธรรมะไม่เหมือนเขา แปลแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะได้บาปให้แก่ชีวิต ซึ่งชีวิตไม่มีอะไรมากหรอก ชีวิตคือการได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นด้วยปัญญา ไม่ใช่ไร้ปัญญาจนหลงว่าได้ทำประโยชน์ ซึ่งการทำประโยชน์นี้ก็ไม่เที่ยง บางขณะทำแล้วเป็นคุณ แต่ไปทำบางขณะเป็นโทษ แต่บาปบุญนั้นเกิดกรรมจริง มีเป็นจริง 

ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธที่มีทฤษฎีวิเศษ ของพระพุทธเจ้ามานานแล้ว แต่ปัจจุบันเสื่อมไปมาก หลงไปในทางเทวนิยม เปลี่ยนเนื้อไม้ เปลี่ยนหนังกลองใหม่ แต่ชื่อก็ยังเป็นกลองอานกะอยู่ 
ประพฤติธรรมต้องสามารถทำให้เปลี่ยนแปลงกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมได้ จิตจะต้องหมดเหตุในการพาไปทำชั่ว มรรค๘ จึงครบทั้งจิตนึกคิดปรุงแต่ง ออกมาเป็นคำพูด การกระทำ การอาชีพ พ่อท่านขออธิบายลึกๆ เกี่ยวกับความพยายามที่จะกรรมออกมา มีทั้งหมด ๗ ขั้น สามขั้นแรกเป็นแกนนึกคิด (ตักกะ วิตักกะ สังกัปปะ) สามแกนหลังเป็นแกนแน่วแน่ (อัปปนา พยัปปนา เจตโส อภินิโรปนา) ตัวสุดท้ายจึงจะเตรียมตัวก่อกรรม (วจีสังขารา) ซึ่งความเป็นพุทธนั้นจะไม่ใช่การห้ามนึกคิดปรุงแต่ง แต่ว่ารู้จักระงับการปรุงแต่ง หรือระงับสังขารจากการมีกิเลสปรุงร่วม แล้วจิตอันเป็นประธานก็ปรุงแต่งออกมาเฉพาะกุศล จนไม่เปลี่ยนแปลงกลับกลอกอีก ทำได้อย่างเที่ยงแท้ (นิจจัง) ยั่งยืน(ธุวัง) ฯลฯ

พ่อท่านบอกว่า เมืองไทยเป็นเมืองพุทธที่น่าเสียดาย ที่เสื่อมไปเพราะไม่รู้จักความเป็นอาริยะ ทั้งสอนกันผิดๆ ว่า ห้ามบอกในสิ่งที่ตนเองมีคุณธรรมชั้นสูง ในระดับอุตริมนุสสธรรม ก็คือยังต้องด้นเดากันเอาเองว่า คนนี้ได้โสดาฯ คนนี้ได้สกิทาฯ ได้อนาคาฯ ได้อรหันต์ พ่อท่านพยายามที่จะสอนให้พวกเราเกิดอรหันต์ขึ้นมาให้ได้ เรียนรู้จักลดละเหตุของสุขที่บำเรอตนลงไป จนโมเดลนั้นมันพิสูจน์ชัดแล้ว ก็จะได้เป็นโครงสร้างไปลดละตัวอื่นๆ ได้อีก เมื่อเป็นคนของพุทธแท้จริงแล้ว จะมีการทำประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์ในสังคม ได้เก่ง ได้มากกว่าบรรดาดอกเตอร์ที่เรียนรัฐศาสตร์มา 
ก็คำว่า พหุชนหิตายะ นี้แหละคือมวลประชาธิปไตย ที่เขาจะได้รับประโยชน์เป็นจำนวนมาก พ่อท่านอยากจะสร้างอรหันต์ให้ได้สัก ๙ รูป ซึ่งจะเกิดมีพระอนาคามีเกิดขึ้นตามมาได้อีกจำนวนมาก พ่อทานจะได้พิสูจน์ว่า คนอาริยะของพุทธนี้แหละ มีคุณประโยชน์ ด้วยพหุชนหิตายะ พหุชนะสุขายะ นี่แหละคือเป็นประชาธิปไตยแท้ๆ 

โลกาธิปไตย คือ อำนาจของคนส่วนใหญ่ที่เต็มไปด้วยโลกีย์ อัตตาธิปไตย คือ ผู้นั้นเก่งมากจนสร้างคนยอมรับนับถือ เกิดคณะบริหารขึ้นมารองรับทำงานจนได้ หรือแม้เป็นพระราชาที่มีข้าราชบริพาร พากันทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน พระราชาปกครองแบบนี้ได้ ก็คือ การปกครองแบบประชาธิปไตยอยู่ดี แล้วคุณเข้าใจประชาธิปไตยแบบในทุกวันนี้ แต่ผลประโยชน์กลับไปตกที่บรรดานักการเมืองและข้าราชการผู้ใหญ่ มันถูกต้องแล้วหรือ ?

พ่อท่านจะพาสร้างคนให้เป็นอาริยะ หากมีโอกาสได้เข้าไปทำงานการเมืองจริงๆ ก็จะทำงานอยู่กับประชาชน เพราะประชาชนจะเชิญให้ขึ้นไปรับใช้การบริหารประเทศ จะได้พิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้าว่า มีความเป็นประชาธิปไตยกัน อย่างสุขสงบสันติ (หากถึงเวลาครบพร้อมด้วยเหตุปัจจัย ก็จะได้ทำไปตามธรรม) 

คุณเทิดภูมิไทเชื่อว่า เมืองไทยยังมีพระอรหันต์ พระโพธิสัตว์อยู่ มีเพื่อนที่เคยศึกษามาร์กซิสม์มาก่อน พอมาร์กซิสม์ล้มเหลว เขาก็หันมายอมรับพระพุทธเจ้า ซึ่งแนวจะใกล้เคียงกัน พ่อท่านวิเคราะห์ให้ฟังว่า แนวคิดของคาลมาร์กนั้น จะเอาวัตถุสมบัติมาเฉลี่ยกันให้ทั่วถึงเท่าเทียมกัน แต่เขาศึกษาแต่วัตถุ ใช้กำลังไปปฏิวัติ ไม่รู้จักความสำคัญของจิตวิญญาณ จึงไม่สำเร็จ แต่พระพุทธเจ้าให้ความ สำคัญของจิตวิญญาณเป็นประธาน ทฤษฎีของพระพุทธเจ้าที่พ่อท่านนำมาปัดฝุ่นใหม่นี้ จะได้รับการสนใจรื้อฟื้นขึ้นมาศึกษากันอย่างมโหฬาร 

อำนาจเป็นของประชาชน แล้วประชาชนยกให้ในหลวง ท่านได้คะแนนเสียงจากปชช. ซึ่งพระองค์ท่านไม่ต้องออกหาเสียงเลย พวกทุนนิยมจึงเป็นลัทธิศาสนามอมเมาคน เอาลาภยศเอากิเลสกามมาล่อให้คนนิยม ล่อให้เชื่อถือศรัทธา ศาสนาเองก็เหมือนเอาพริตตี้มาล่อ เอาโลกธรรมสรรเสริญ ให้คนมาหลง มาชอบ มาเชื่อว่าสุขว่าดี



ไม่มีความคิดเห็น: