วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

55-3-19 บันทึกย่อพ่อเทศน์ เรียนอิสระฯ


เขียนโดย.. ใจแปลง สู่แดนธรรม
บันทึกย่อพ่อเทศน์ เรียนอิสระฯ FMTV บ้านราชฯ ตอน.. "ศึกษาตัวการพาโลกต่ำ"
จั. ๑๙ มี.ค. ๒๕๕๕ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถาะ เริ่มเวลา 18:05 น.

วันนี้ แฟนรายการใหม่ๆ คงชอบ เพราะพ่อท่านเทศน์อธิบายด้วยเรื่องเบาๆ ที่ไม่ยากเกินไปนัก

ก่อนเข้ารายการนั้น อ.กฤษฎากับพ่อท่านได้คุยกันผ่าน Skype อ.ถามเรื่องการศึกษา พ่อท่านตอบไปถึงเหตุเลยคือ ความอยากได้ความสุขนั้นมันเป็นตัวตนที่หลอกเรา เพราะเราสามารถทำให้มันไม่มีตัวตนได้ เราไม่เอาเดี๋ยวนี้มันก็ไม่มี ณ เดี๋ยวนี้เลย มันไม่เที่ยง เมื่อเราทำเหตุของมันไม่ให้เที่ยง มันก็ไม่มีตัวตน ต้องมีปัญญาเห็นจริงในความจริง เห็นอนิจจังนี่แหละคือ มันเป็นเหมือนพยับแดดแล้วก็จะหายไป เป็นของว่างเปล่า มันเป็นของหลอกดั่งมายากล หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้




เข้ารายการ ... อ.อ่านโคลง "การศึกษาพาโลกต่ำ" พ่อครูบอกด้วยโคลงกลอน หมายถึงการบอกด้วยความเจริญ ส่อแสดงการพัฒนาทางปัญญา ซึ่งมีด้วยกันทุกชาติภาษา จิตคนสร้างอะไรขึ้นมาให้ยอมรับกัน มันก็สวยจริง เพราะจริงตามที่จะกำหนดสัญญารู้จักสมมุติสัจจะ ผู้ฉลาดอาศัยสิ่งนี้นำพาไปหาเนื้อ แต่ไม่ให้ไปติดอยู่ที่รูปแบบ มีเนื้อยาอยู่ภายในโดยเคลือบน้ำตาลฉาบไว้เพียงเล็กน้อย เอาศิลปะเป็นอุบายกุศลให้ได้รับการขัดเกลา เป็นอุบายที่ไม่ใช่ทำให้เกิดโทษ แต่เป็นอุบายที่ให้เขาได้รับประโยชน์ ได้ลดกิเลสลงอย่างถูกตัวตนของกิเลส

ไม่ต้องไปหลงอวิชชาโง่จนเสียเวลา เสียทุนรอน เสียแรงงาน เมื่อเราไม่ต้องสูญเสีย เราก็มีเวลาทุนรอนแรงงานกลับคืนมา เอาไปสรรสร้างประโยชน์ต่อคนอื่นได้เป็นอย่างดี

การศึกษาของคนทุกวันนี้มันพาโง่ อ่อนเยาว์เขลาปัญญา ไปศึกษาเอาเปรียบเอารัดเขา .. การเลี้ยงตนรอดนั้นคนเราไม่ควรน้อยหน้ากว่าสัตว์เดรัจฉาน เพราะมันไม่เคยศึกษาวิชาชีพเลย มันก็ทำมาหากินเลี้ยงตัวเองได้ คนเรามีการศึกษาแล้วต้องมีคุณประโยชน์ต่อผู้อื่นให้มากกว่าทำมาหากินเพื่อตัวเอง ไม่งั้นแล้วจะเท่ากับสัตว์ ไม่ต่างอะไรไปกว่าสัตว์เดรัจฉาน (พ่อท.อ่านโคลง การศึกษาพาโลกต่ำ) ...

การฟังธรรมก็สามารถบรรลุธรรมได้ เพราะได้รับอานิสงส์ ๕ อย่างจากการฟังธรรมคือ เช่น ๑.ได้ฟังสิ่งใหม่ทบซ้ำของเก่าขึ้นอีก ๒.เข้าใจชัดในสิ่งที่เคยฟังเคยรู้มาแล้ว ๓.บรรเทาความสงสัยได้ ๔.ทำความเห็นให้ตรงแน่แน่ว ๕.จิตเกิดความเลื่อมใส และพ่อท่านก็สอนวิธีการบรรลุได้อีกจนครบ ๕ ประการ คือ นอกจากจะบรรลุด้วยการฟังธรรมแล้ว ยังบรรลุด้วยการแสดงธรรม บรรลุได้ด้วยการสาธยายธรรม ด้วยการไตร่ตรองธรรม และด้วยสมาธินิมิต ซึ่งการจะมีสมาธิให้สัมมาถูกต้องนั้นจะต้องมีทิฐิที่สัมมา (พ่อท.เริ่มสอนให้มีสัมมาทิฐิไปตั้งแต่การทำทาน หากพระอรหันต์เก๊ไม่เข้าใจแม้แต่การทำทาน ก็จะปล่อยให้ลูกศิษย์เลือกทำทานแต่พระอรหันต์ เพราะหวังจะได้บุญกุศลมากมาย ซึ่งเป็นการตั้งจิตไว้ผิด ไม่ได้ชำระกิเลสเลย)

การแก้กรรม ตัดกรรมนั้น สามารถทำได้เฉพาะตนเองตัดเองเท่านั้น คือ ตัดกรรมชั่วไม่ทำกรรมชั่วอีกเลย พระอรห.ท่านตัดกรรมชั่วได้เด็ดขาดแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าท่านจะไม่สร้างกรรมอีกนะ ท่านยังมีมีความสามารถที่จะทำกรรมให้เกิดแต่กุศลกรรมได้ทุกเมื่อ

การให้ธรรมทาน ก็ทำได้แค่ผู้ชี้ทาง ใช้วจีกรรม กายกรรมนำพาเป็นตัวอย่างได้เท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนมโนกรรมให้เขาได้เลย เราทำได้เพียงสื่อสารเป็นธรรมทานให้เท่านั้น

อ.กฤษฎาถามเรื่องการงบดุลบัญชี พ่อท.ตอบการตรวจทบทวน ด้วยเตวิชโช ตรวจบัญชีต้องมีนามรูปปริคหญาณะ ตรวจดูสังขารอันมีอวิชชาเป็นปฏิจจสมุปบาท เมื่อไม่รู้แล้วมันรวมรวบยอดลงไปในเวทนาทันที สัมผัสแล้วจะเกิดเป็นสุขเป็นทุกข์ทันที ก็นี้แหละคือ “สังขาร” สังขารให้เสพแล้วคุณได้กิเลสหนาขึ้นก็ไม่มีทางรู้ พ่อท.สอนปฏิจจสมุปบาทไปจนให้รู้จัก อุบายวิธีละกิเลสออก โดยไม่ให้อาหารแก่มัน มันไม่สมอยาก ไม่สมตัณหา คุณจึงรู้เวทนา เกิดทุกข์ในระหว่างต่อสู้ ฯลฯ แล้วใช้การปหาน๕ วิธีแรกเลยนั้นก็กดข่มกำลังของกิเลสมันลงไป จนมันลดกำลังความอยากลง แล้วจึงพิจารณาถึงความไม่มีตัวตนของความสุข ที่มันอุตส่าห์มาหลอกให้คุณดิ้นรนแสวงหาความสุขมาบำเรอให้อร่อยจนได้ พิจารณาจนจิตยอมรับความจริงว่ามันไม่มีอะไรน่าติดหลงใหลเลย จนกว่าจิตจะคลาย จิตปล่อยออก ละออกได้ไปตามลำดับ ฯลฯ

การศึกษาแทนที่จะไปสอนเน้นให้รู้แต่โลกียศาสตร์ ก็ควรมาศึกษาถึง.. ความเข้าใจแบบ อย่าไปหลงความก้าวหน้าที่พาถอยหลัง ... อ.ถามอะไรผมจำไม่ได้ แต่พ่อท.ตอบด้วยงานขายของปีใหม่ ขายขาดทุนจริงๆ เป็นการให้การศึกษา ไปจนจบรายการ 
ใช้เวลา ๒ ชม. ๐๐ นาที พอดี


ไม่มีความคิดเห็น: