"ผ่าตัดความเป็นโอปปาติกสัตว์ ตอนที่ ๕"
บันทึกย่อพ่อเทศน์ ปลุกเสกฯ ๓๖ FMTV บ้านราชฯ
ศ. ๖ เม.ย. ๒๕๕๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะโรง เริ่มเวลา 04:05 น.
บันทึกย่อโดย ใจแปลง สู่แดนธรรม
ที่มา :
http://www.facebook.com/groups/188545584512043/permalink/380224485344151/
http://youtu.be/ 7kOK6XATBTY
เชิญคลิกฟังคลิป "ผ่าตัดความเป็นโอปปาติกสัตว์ ตอนที่ ๕"
1. พ่อท.ถามว่าเรามาบำเพ็ญคุณ บำเพ็ญธรรมกันมาแล้ว เป็นพระขึ้นมาบ้างแล้วหรือยัง พระคือผู้มีความประเสริฐ แล้วประเสริฐกันที่ไหน (ผู้ชมเงียบ กำลัีงนึกคำตอบอยู่ สักครู่ก็เซ็งแซ่ฟังไม่ได้ศัพท์ ) พ่อตอบว่าก็ประเสริฐกันที่กายกร รม วจีกรรม มโนกรรม นี่แหละ ... ไล่ลำดับให้รู้พลังงานไปจากพลัง งานอุตุนิยาม พีชะนิยาม จิตนิยามก็มีความเป็นสัตว์ขึ้นม าแล้ว สัตว์เดรัจฉานก็ยังไม่รู้จักกรร ม ไม่เชื่อกรรม แม้เป็นคนขึ้นมาแล้วก็ตาม ถึงแม้จบดอกเต้อร์แล้วแต่ก็ยังเ ป็นอเวไนยสัตว์จึงไม่เชื่อกรรมว ิบาก !!!
กัมมนิยามก็รู้จักกรรม เชื่อกรรมวิบาก เชื่อการเกิดโดยกรรม เกิดโดยโอปปาติกโยนิ พ่อท่านกำลังสอนผ่าตัดวิญญาณ ให้รู้จักโยนิ๔ หรือการเกิดทั้ง๔ คือ ๑.ชลาพุชโยนิ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ หรือจากมดลูก ๒.อัณฑชโยนิ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในไข่ หรือเกิดสองครั้งเรียกว่าทิชาชา ติ ๓.สังเสทชโยนิ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในเมือกไค ล ๔.โอปปาติกโยนิ การเกิดทางปรมัตถธรรมก็คือ เกิดโดยพฤติกรรมที่ครบองค์ประกอ บ จนเป็นสิ่งนั้นๆ ได้ด้วยกรรม
2. วันนี้พ่อท.จะสอนการเกิดของวิญญ าณ โดยกัมมพันธุคือ ถ้าทำกรรมเป็นพันธุ์สัตว์นรกมาก ก็ย่อมเกิดแต่โคตรสัตว์นรก ทำกรรมดีจนเกิดข้ามโคตรไปเป็นอุ บัตติเทพ คือตัดโคตรขึ้นมาจนพ้นโคตรกัลยา ณปุถุชน ทำจิตให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น สู่โคตรใหม่ได้ (เป็นโคตรภูบุคคลที่มีศีลแค่ ๕ แม้เป็นผู้บริหารประเทศที่ยังไม ่ต้องมีศีลบริบูรณ์ดีนัก บ้านเมืองก็จะเจริญดีกว่านี้แน่ นอน)
3. รู้จักการทำให้ดับและให้เกิดของ จิต ด้วยการกระทำของจิตให้สัตว์นั้น ตายลงไป อย่างเที่ยงแท้ ไม่กลับกำเริบ ไม่ฟื้นเกิดมาใหม่ จนมีโคตรภูญาณรู้การตัดโคตรที่ข ้ามโคตร สู่ปรโลกหรือเป็นสัตว์โลกชนิดให ม่ได้แน่แท้แล้ว ได้แล้วก็ได้เลย คือแม้เกิดข้ามชาติก็ยังสามารถม ีกรรมของตนนั้นเป็นที่พึ่งอาศัย ได้อยู่ ..
พ่อท.เอาความเห็นของสาติภิกษุมา แจงให้รู้ว่ามิจฉาทิฐิ (คือท่านมีทิฏฐิอันลามกเห็นปานน ี้เกิดขึ้นว่า ข้าพเจ้าย่อมรู้ทั่วถึงธรรมตามท ี่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า วิญญาณนี้นั่นแหละ ย่อมท่องเที่ยว แล่นไป มิใช่อื่น ซึ่งเห็นผิดตรงข้ามกับพระพุทธเจ ้าทรงสอนว่า "พระผู้มีพระภาคตรัสแล้วโดยปริย ายเป็นอเนกว่า ความเกิดแห่งวิญญาณ เว้นจากปัจจัยมิได้มี" /ผู้บันทึกแทรกรายละเอียด)
4. พ่อท่านสอนให้พวกเราปอกลอกดับโอ ปปาติกะสัตว์ ลดหรือดับมาตั้งแต่"รูป"ภายนอก หรือกายองค์ประชุมภายนอกที่เป็น กามภพ จนเหลือน้อยลงเข้าไปสู่การลด"อร ูป"ภายใน แล้วชีวิต(ของคนเหล่านี้)ก็จะอย ู่ร่วมกันอย่างสงบ มีสุข ย่อมรู้จักมีการระลึกถึงกันด้วย เมตตา กรุณา ไม่ใช่สอนผิดๆ แบบห้ามส่งความคิดออกนอกตัว ...
พวกเรานี้มีพฤติกรรมของพระอนาคา มี มีศีล ๑๐ อยู่ โดยเราทำงานฟรี ไม่ถือเอาเงินทองเป็นของๆ เรา ก็ต้องเช็คจิตว่าเราเป็นอนาคามี ในเรื่องเงินแล้วหรือยัง ถ้าใจเรามีแค่รูปราคะคือ ใจก็อยากได้อยู่ แต่ก็ไม่ยึกยัก ไม่ละเมิด ไม่คิดโกงเอามาแน่ จะรับเอามาก็เฉพาะคนอื่นให้มาเท ่านั้น รับมาได้แล้วก็ไม่เก็บสะสมไว้ พ่อท่านสอนให้อ่านใจเราจริงๆ จากสถานการณ์จริง อ่านใจดูการเกิดรสในเรื่องเงิน และเรื่องอื่นๆ จากรสอาหารอีก เราต้องอ่านจิตให้เป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ไปหลงคิดว่าจิตเราสงบแล้ว กิเลสไม่มีโผล่หน้ามากวนแล้ว จึงคิดว่าเป็นอรหันต์แล้ว แต่กิเลสระดับโสดาบันเป็นยังไง สกิทาฯเป็นยังไง (กิเลสที่จะขจัดนั้นแตกต่างกันก ับโสดาฯ ยังไง) ก็ยังไม่รู้เลย ว่าหมดไปตามลำดับแล้วหรือยัง !!
5. ปลุกเสกปีนี้ไปตรวจสอบตัวเอง อย่าไปตั้งค่าให้ตัวเองสูงเกินจ ริง สัตว์ที่มันดิ้นเพราะขบวนการของ ปฏิจจสมุปบาท เริ่มจากจิตมีอวิชชาเป็นต้นทุน จึงมีการปรุงแต่งสังขารเป็นแบบส ัตว์นั้นๆ (พ่อท่านอ่านสิ่งที่เขียนขึ้นมา ใหม่เมื่อคืนนี้ ไม่มีในชี้ท แล้วอธิบายประกอบการสอนให้รู้จั กสมาธิที่ถูกต้อง โดยเทียบกับหลักปฏิจจสมุปบาท ว่า...) กิเลสผูกความเป็นสัตว์อวิชชาไว้ นั่นแหละ ที่มันเป็นเหตุก่อให้เกิดสัตว์ส ังขารสรรสร้างความไม่สงบ ผู้มีอวิชชาจึงปฏิบัติมิจฉาทิฏฐ ิ ทำสติปัฏฐานไม่เป็น ฯลฯ (ผมพิมพ์บันทึกตอนนี้ไม่ได้ เพราะต้องอินเสิร์ทข้อความให้ผู ้ชมทางบ้านอ่านตาม กรุณาดูรายละเอียดในวิดีโอครับ)
6. พ่อท่านวันนี้สอนแบบพูดแรงๆ การพูดสัจธรรมความดีมีความจริงน ั้น สัจจะความจริงจึงต้องข่มความไม่ จริงอยู่เอง แต่พ่อท่านไม่มีจิตข่มผู้อื่นเล ย ... ในอนาคตตอนอายุ ๑๐๘ ปีก็คงจะต้องเปิดเผยความจริงให้ ยิ่งกว่านี้ (ผู้ชมว่า หากถึงปานนั้นแล้ว พวกเขาคงตายหมดก่อน)
หากต้องการชมวิดีโอเพื่อเก็บราย ละเอียด ๒ ชั่วโมง กรุณารออีกสักครู่ครับ เดี๋ยวจะนำมาโพสข้างล่างต่อจากนี้
กัมมนิยามก็รู้จักกรรม เชื่อกรรมวิบาก เชื่อการเกิดโดยกรรม เกิดโดยโอปปาติกโยนิ พ่อท่านกำลังสอนผ่าตัดวิญญาณ ให้รู้จักโยนิ๔ หรือการเกิดทั้ง๔ คือ ๑.ชลาพุชโยนิ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ หรือจากมดลูก ๒.อัณฑชโยนิ กำเนิดของสัตว์ที่เกิดในไข่ หรือเกิดสองครั้งเรียกว่าทิชาชา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น