ตอน.. "เรียนรู้จักวิญญาณให้เป็น"
บันทึกย่อพ่อเทศน์ เรียนอิสระฯ FMTV บ้านราชฯ
พุธ. ๑๑ เม.ย. ๒๕๕๕ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะโรง เริ่มเวลา 18:05 น.
บันทึกย่อโดย ใจแปลง สู่แดนธรรม
ที่มา : http://www.facebook.com/groups/188545584512043/permalink/383632888336644/
2. ท่านฟ้าไทถามว่า ตายแล้ววิญญาณยังไม่หมดความเป็น สัตว์ (เสียงเบา ไม่ได้ยินครบทั้งประโยค) พ่อท่านตอบว่า เราผูกสัตว์(สังโยคะ)เอาไว้เอง ด้วยความโง่เอง ... พ่อท่านว่าหากไม่รู้จักสัตว์ให้ สัมมาทิฐิเสียก่อน ซึ่งเป็นประธานตัวแรกเริ่ม การปฏิบัติไปเพื่อเกิดสมาธิ ก็ย่อมได้มิจฉาผล เช่น สัตตาวาสข้อที่ ๒ กายต่างกัน แต่มีสัญญาเดียวกัน คือ มีสัญญาเห็นเช่นเดียวกันว่าจะทำ ฌาน (คือทำให้สงัดจากกาม) แต่การไปได้องค์ประชุมเช่นนั้น หรือจะได้กายเช่นนั้น ย่อมได้วิธีการกระทำให้มีกายต่า งกัน (เช่น ฤาษีไปสะกดจิตเพ่งลมหายใจ ส่วนของพุทธนั้นเปิดตา หู รับรู้สัมผัสกามวัตถุเห็นๆ แต่ทำใจเพิกเฉยไม่ปรุงกามสังขาร เป็นต้น /ผู้บันทึก)
3. การทำวิญญาณให้พ้นสัตว์ผูกสังโย ชน์ไว้ ต้องเข้าใจให้ตรงก่อนว่า ต้องมาศึกษาวิญญาณในกายเราขณะมี ชีวิตเป็นๆ นี้เท่านั้น อย่าไปหมายเห็นว่า วิญญาณล่องลอยท่องเที่ยวไป อย่างนั้นเอามาลดละกิเลสไม่ได้ จะต้องมีญาณหรือมีตาทิพย์รู้เห็ นวิญญาณ โดยมีวิปัสสนาญาณ คือ มี นามรูปปริเฉทญาณ เช่น รู้อวิชชามีสังขารเป็นปัจจัย มีนามรูปเป็นปัจจัย เป็นต้น
4. วิญญาณที่ยังมิจฉาทิฏฐิ หรือยังมีอวิชชาอยู่นี้แหละก็คื อ สัตตา โอปปาติกสัตว์อย่างหนึ่งแท้ๆ ... ท่านฟ้าไทว่า ตอนเรียนปริยัติก็สอนปฏิจจสมุปบ าท แต่เวลาปฏิบัติก็พาไปนั่งสมาธิห ลับตาสะกดจิต ... เมื่อมีอวิชชาอยู่ ทำการสังขารอยู่ก็ไม่รู้จักสังข าร ก็จะหลงการปรุงแต่งไปในภวังค์สม าธิ ส่วนพุทธเรานั้นรู้จักสังขารที่ เป็นสัตว์นรกจริง แม้เป็นเทวดาเก๊ก็รู้ ทำให้เป็นอุปัตติเทพก็รู้ ส่วนผู้ไม่รู้นั้นหลงปรุงแต่งอย ู่ ก็ไม่รู้ว่าเป็นสัตว์หรือเป็นเท วดา ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองสังขารอยู่
5. พ่อท่านนึกสงสารบรรดาครูบาอาจาร ย์ทั้งหลาย ที่พาลูกศิษย์สังขารกันอยู่อย่า งอวิชชา กิเลสเก่าก็ไม่ได้ล้าง กิเลสใหม่ก็สังขารขึ้นใหม่จากกา รหลงในสมาธินี่แหละ ... พ่อท่านอ่าน ฯลฯ และสอนถึงการทำใจในใจให้ถ่องแท้ ถูกต้อง ย่อมฟังเข้าใจได้ยิ่งกว่าพระอรห ันต์ทางโน้นฟังพ่อท่านซะอีก คนถูกก็จะเปิดใจรับ อย่างมีปรโตโฆสะ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในทิฐิเดิมของ ตน
6. พ่อท่านอ่านไปตามสิ่งที่เขียนเร ียบเรียงมา เพื่อปูพื้นฐานให้เข้าใจ ในระดับสัมมาทิฏฐิ .. ท่านฟ้าไทถามว่า (..? ผมฟังไม่ทัน ประมาณว่า เราจะรู้ได้ยังไงว่า ใครเป็นสัปบุรุษ) พ่อท่านตอบว่า “ก็ให้สังเกตจากผมนี้แหละ” (ผู้ชมขำๆ) ... ฯลฯ พ่อท่านเขียนมาอธิบายได้ดีมาก โยงไปหาอาหารสู่ความหลุดพ้น มีสติปัฏฐานเป็นอาหารให้เกิดโพช ฌงค์ เป็นต้น .. และพ่อท่านพยายามสอนว่า รูปคืออะไร นามคืออะไร จึงเป็นการรู้จักวิญญาณ ... ไม่ใช่การไปปฏิบัติผิด นั่งหลับตาทำฌานสมาบัติแบบมิจฉา ทิฐิ ต่อไปพ่อท่านจะนำเอามิจฉาทิฐิสู ตร มาสอนให้พ้นสักกายะ และพ้นอัตตานุทิฐิ อาจจะแจกขันธ์ ๕ ให้รู้จักวิญญาณกันชัด ว่า ดับวิญญาณนั้นคือทำยังไง ?
7. ท่านเดินดิน สรุปจบ สัตบุรุษคือ ผู้ที่มาทำกงล้อธรรมจักรให้หมุน ไปข้างหน้า อาจารย์พาลดกิเลส ลูกศิษย์ก็ควรลดให้ได้ผล (พรุ่งนี้ ๑๒ เม.ย. พ่อท่านไม่ได้เทศน์ตอนเย็น ส่วนผมเองก็ไปเล่นดนตรี ร้องเพลง บนเวทีภาคค่ำ ครับ)
บันทึกย่อพ่อเทศน์ เรียนอิสระฯ FMTV บ้านราชฯ
พุธ. ๑๑ เม.ย. ๒๕๕๕ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะโรง เริ่มเวลา 18:05 น.
บันทึกย่อโดย ใจแปลง สู่แดนธรรม
ที่มา : http://www.facebook.com/groups/188545584512043/permalink/383632888336644/
1. พ่อท่าน ท่านเดินดิน ท่านฟ้าไท ร่วมกันจัดรายการ วันนี้ ๑๖ น. มีเหตุแผ่นดินไหวบริเวณเกาะสุมา ตรา ที่ๆเราอยู่บ้านราชก็รู้สึกถึงร ะดับน้ำสะเทือนจนกระเพื่อม พ่อท่านพยายามที่จะเขียนเรียบเร ียงให้อ่านเข้าใจ อย่างครบถ้วนบริบูรณ์ เขียนแล้วก็แก้ไขอีก .. พ่อท่านอ่านสิ่งที่เขียนมา แล้วอธิบายให้รู้ชัดๆ ถึง วิญญาณเกิดขึ้นได้ เพราะมีปัจจัย สองสิ่งร่วมกัน เช่น ตากับรูป ประชุมกันให้เกิดความรู้ ก็ความรู้นั่นแหละคือวิญญาณ ดังนี้จึงต้องผ่านความเข้าใจให้ ถูกต้องก่อน ในทิฐิข้อ๙แห่งสัมมาทิฏฐิ การรู้เพราะมีธาตุรู้ มีวิญญาณฐีติ เป็นภูมิที่ตั้งแห่งวิญญาณ (และในวิญญาณเองก็ย่อมมีภพอันเป ็นที่อยู่ของสัตว์อีก /ผู้บันทึก)
2. ท่านฟ้าไทถามว่า ตายแล้ววิญญาณยังไม่หมดความเป็น
3. การทำวิญญาณให้พ้นสัตว์ผูกสังโย
4. วิญญาณที่ยังมิจฉาทิฏฐิ หรือยังมีอวิชชาอยู่นี้แหละก็คื
5. พ่อท่านนึกสงสารบรรดาครูบาอาจาร
6. พ่อท่านอ่านไปตามสิ่งที่เขียนเร
7. ท่านเดินดิน สรุปจบ สัตบุรุษคือ ผู้ที่มาทำกงล้อธรรมจักรให้หมุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น